ประเด็นคือระหว่างที่ผมเล่น facebook อยู่นั่นเอง ผมก็เลื่อนๆ ดูไป ปรากฎว่าไปเจอมาโพสนึง โอ้แม่พระ เบอร์เกอร์เนื้อน่ากินมาก เลยมีความคิดว่า
เอ๊ะเราน่าจะทำกินเองได้นะ งั้นลองมาทำดูหน่อยไหม ก็เลยเริ่มลุยเลย แบบไม่คิดเยอะ โดยผมเริ่มจาก ไป Makro Food Service ใกล้บ้าน โดยผมเตรียมวัตถุดิบดังนี้
“โดยแฮมเบอร์เกอร์ที่ผมทำนั้น ต้องไม่เหมือน เซเว่น และต้อง เป็นในแบบ Style ที่เราชอบ”
เตรียมวัตถุดิบ
- เนื้อบด อย่างดี 400 กรัม ได้ประมาณ 4 ชิ้นตูมๆ
- ไข่แดง 1 ลูก
- หอมหัวใหญ่สับ ครึ่งลูก
- พริกไทย เขย่าใส่ไปประมาณ 3 – 5 ครั้ง
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ครึ่งช้อนโต๊ะ
- มะเขือเทศ 2 ลูก
- ซอสมะเขือเทศ
- ชีส ตามจำนวนชิ้นแฮมเบอร์เกอร์ที่จะทำ
- ผักกาดขาว หรือ ใช้ผักสลัดแทนได้
- เนย เอาไว้สำหรับทาขนมปัง
- ขนมปังแฮมเบอร์เกอร์
![แฮมเบอร์เกอร์ทำเอง - วัตถุดิบ - 1](https://i2.wp.com/farm2.staticflickr.com/1896/44785153641_e4e5fc534f_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
![แฮมเบอร์เกอร์ทำเอง - วัตถุดิบ - 2](https://i2.wp.com/farm2.staticflickr.com/1855/43875261585_400faf4a55_b.jpg?resize=683%2C1024&ssl=1)
![แฮมเบอร์เกอร์ทำเอง - วัตถุดิบ - 3](https://i1.wp.com/farm2.staticflickr.com/1898/44785075801_a72fdb5e0c_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน
เริ่มจากนำ เนื้อบด หอมหัวใหญ่หั่น ไข่แดง เกลือ พริกไทย ซอยหอยนางรม มาผสมเข้าด้วยกัน ให้มันเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ขย้ำๆ เข้าไป ให้มันหลุดโลก
![พยายามผมวัตถุดิบต่างๆ ให้เข้ากันกับเนื้อ](https://i1.wp.com/farm2.staticflickr.com/1844/29848706267_c9c84f1591_b.jpg?resize=683%2C1024&ssl=1)
เมื่อเราขย้ำจนหนำใจ + ด้วยรสชาติความเค็มของมือเรา เราก็จะได้เนื้อออกมามีลักษณะ เป็นชิ้นเดียวกับวัตถุดิบแล้ว
![เมื่อผสมเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว จะได้ลักษณะแบบนี้](https://i0.wp.com/farm2.staticflickr.com/1889/44785119411_9b65090d30_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
จากภาพ จริงๆมันก็เป็นแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่แล้วนะ 555 แต่เราไม่ต้องการแบบนี้ เราต้องการแฮมเบอร์เกอร์ 4 ชิ้น สวยๆ น่ากิน เราก็ต้องลุยกันต่อครับ โดยการนำมาปั้นเป็นก้อนๆ ให้ตัวเนื้อแฮมเบอร์เกอร์ของเรามีลักษณะที่ ใหญ่ แน่น และ สวยงาม
![ปั่นเนื้อของเราให้มีลักษณะที่ใหญ่และแน่น](https://i0.wp.com/farm2.staticflickr.com/1894/44065507864_2d5be18d55_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
![ปั่นชิ้นที่ 2 เสร็จแล้ว เหลืออีก 2 ชิ้นเท่านั้น](https://i1.wp.com/farm2.staticflickr.com/1843/43875279865_3e20b64b79_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
ปั้นไปเลยยาวๆ 4 ชิ้น สวยๆ เมื่อปั้นเนื้อเสร็จหมดแล้ว ก็นำมาจัดเรียงใส่จาน และที่สำคัญ อย่าลืมซีน ปิดไว้ให้เรียบร้อย กันมีกลิ่น และตัวอะไรไปเกาะไปตอม
![ซีนชิ้นเนื้อทั้ง 4 ชิ้นของเราให้เรียบร้อย](https://i1.wp.com/farm2.staticflickr.com/1882/42974118740_ee8ff7935b_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
หลังจากนั้นเราก็นำเนื้อของเราไปเข้าตู้เย็น รอสักประมาณ 1 ชั่วโมง ให้วัตถุดิบของเรานั้นเข้าไปในตัวเนื้อของเราแบบเต็มเปี่ยม เพราะเมื่อมันเข้าไปแล้ว เวลาเราทอดแล้วเอามากินนี่ น้ำจากเนื้อนี่ไหลออกมาแบบ ขั้นสุดมากเลยหละจะบอกให้
![เอาแช่ตู้เย็นหมักไว้สัก 45 นาที - 1 ชั่วโมง](https://i1.wp.com/farm2.staticflickr.com/1865/42974111970_7d6f22a06f_b.jpg?resize=683%2C1024&ssl=1)
หลังจากที่ผมนั่งรออยู่พักนึง โคตรหิวเลย แต่เราต้องอดทนนะครับ เพื่อ เนื้อที่แสนอร่อยของเรา ฮึบบ เราต้องทำได้
ระหว่างรอ เราอย่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่าครับ เรามาทำสิ่งที่เติมแต่งให้แฮมเบอร์เกอร์ของเรานั้นแตกต่างกันดีกว่า ก็คือออ การปิ้งขนมปัง
โดยเริ่มจากฉีกถุงขนมปังแฮมเบอร์เกอร์ที่เราซื้อมา และ ทาเนยที่ขนมปังรอเอาไว้เลยแบบนี้
![ทาเนยที่ขนมปังให้ พอเหมาะ กรึงๆให้ทั่วแผ่น](https://i2.wp.com/farm2.staticflickr.com/1890/29848652557_0006842273_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
เมื่อทาเนยที่ขนมปังแล้ว ให้เราเอาขนมปัง ไปปิ้ง บนกระทะที่เราตั้งเตาไว้ คือ สิ่งนี้หละที่จะทำให้ แฮมเบอร์เกอร์ของเรา แตกต่าง จากร้านทั่วๆไป เช่น เซเว่น หรือ แมคโดดัล
![ขนมปังฉอมเบอร์เกอร์กำลังเกรียมได้ที่เลย](https://i1.wp.com/farm2.staticflickr.com/1879/29848629117_2700cce143_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
โอ้ยย นี่ขนาดกินเสร็จแล้วหลังเขียน Blog นี้นะ ผมยังหิวขึ้นมาอีกรอบเลยเนี้ย แค่เห็นขนมปังเองง ฮึบบบ
และแล้วไม่นาน เวลาก็ผ่านไปไว ราวกับปาฏิหาริย์ เนื้อที่หมักเอาไว้ในตู้เย็นครบ 1 ชั่วโมงแล้ว แม่เจ้า เราขยับเข้ามาอีกก้าวแล้ว ครับสำหรับแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นแรกของเรา รีบไปเอาออกมาจากตู้เย็นกันดีกว่า
เมื่อเอาออกมาแล้ว อย่าพึ่งรีบเอาเนื้อใส่กระทะนะครับ เอาเนย ไปกลิ้งให้ทั่วกระทะก่อน เพื่ออะไรอะหรอครับ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องใช้น้ำมัน และได้กลิ่นของเนยหอมๆ เข้าไปในเนื้อด้วย
![กลิ้งก้อนเนยไปให้ทั่วกระทะก่อนเอาเนื้อลง](https://i2.wp.com/farm2.staticflickr.com/1875/30913938198_3c30f85253_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
พอกลิ้งเนยทั่วแล้วก็อย่ารอช้าครับ ความหิวมันไม่เคยรอใคร เอ้า เอาเนื้อลงเลย สิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นหลังจากเอาเนื้อลงก็คือ เสียง “ซู้ๆๆๆ” คือสุดมากครับ
![เสียง "ซูซซซซซซซซ" จากการวางเนื้อลงกระทะ](https://i2.wp.com/farm2.staticflickr.com/1861/30913927428_7736049836_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
เออ ลืมบอกไปไม่ต้องใช้ไฟแรงมากนะครับ เอาเบาๆ พอประมาณ ทิ้งไว้ด้านละประมาณด้านละ 7 นาที ก็น่าจะกำลังพอดี ใครชอบ ไหม้ๆ ก็ปล่อยไปนานกว่านั้นได้ครับ
หลังจากวางไว้ 7 นาทีแรกก็จะได้หน้าตาที่ดูน่ากินมาก แต่ยังไม่สุกทั้งหมดนะครับ ต้องกลับมาอีกหน้าด้วย แต่ที่สังเกตได้เลยก็คือ น้ำที่ไหลออกมาจากเนื้อ พร้อมกับกลิ่นอันแสนน่ากินมากครับ
![หลังจากวางเนื้อไว้ 7 นาที ด้านแรก](https://i1.wp.com/farm2.staticflickr.com/1889/30913915988_a28ffa77a1_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
เมื่อทอดทั้ง 2 ด้านสมบูรณ์แล้ว ก็จะมีหน้าตาแบบนี้ ฟิวริ่งแบบเหมือนจะไหม้ แต่ จริงๆแล้วมันไม่ได้ไหม้ น่ากินมาก ถ้าแหวกเนื้อมันออกมาดู ก็จะเห็นว่ามันกำลัง สวยงามเลย
![เนื้อกำลังสุกพอดีเลย](https://i2.wp.com/farm2.staticflickr.com/1882/44065249084_4135b766d6_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
และสิ่งสุดท้ายก่อนที่จะเอาเนื้อ ออกจากกระทะก็คือ เราต้องเอาชีสที่เตรียมมาใส่ลงไปข้างบนของเนื้อด้วย
ด้วยความร้อนของชิ้นเนื้อและกระทะ จะทำให้ชีสนั้นละลายลงมา พอดิบพอดี ครับ
![ชีสจะค่อยๆละลายไหลลงไปที่เนื้อ](https://i2.wp.com/farm2.staticflickr.com/1841/44065371884_2722b387c2_b.jpg?resize=683%2C1024&ssl=1)
เมื่อชีสละลายไหลลงไปแล้ว ทีนี้เราก็พร้อมที่จะรับประทานแล้วครับ นำเนื้อที่อยู่ในกระทะ จัดใส่ขนมปัง แล้วก็ถ่ายภาพ เช๊ะ สักภาพ 555 ก่อนกิน อิอิ
![จัดเนื้อลงขนมปัง พร้อมจัดผักให้สวยงามพร้อมกิน](https://i2.wp.com/farm2.staticflickr.com/1899/44784988381_1a22881f28_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
สุดท้ายแล้ว เราจะได้แฮมเบอร์เกอร์แสนอร่อยในแบบของเราเอง ขั้นสุดมากครับผมบอกเลยจากใจ
![เบอร์เกอร์เนื้อที่สมบูรณ์แบบ](https://i0.wp.com/farm2.staticflickr.com/1847/44065341394_db0da6fb50_b.jpg?resize=740%2C494&ssl=1)
แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้านะครับเพื่อนๆ ตอนนี้ขอไปซื้อข้าวกินก่อน ไม่ไหวละ เขียน Blog ไปหิวไป