ร้านแจ่วฮ้อนอุบล ร้านคอหมูย่างที่อร่อยที่สุดใน บางแสน

ต้องบอกก่อนว่า การเขียนรีวิว อาหารเนี่ย ถ้าไม่เขียนตอนกินเสร็จ มันจะไม่ขลัง เพราะเขียนตอนนี้รสชาติอาหารที่ผมได้รับมา มันยังติดลิ้นอยู่ไม่เลือนลาง

เกริ่นก่อนเข้าเรื่อง

คือร้านแจ่วฮ้อนอุบล จริงๆแล้ว น่าจะเปิดมานานแล้ว ตั้งอยู่ในซอยหลังร้านเหล้าชื่อดังของบางแสน คือร้าน Burdock

น่าจะเปิดตั้งแต่ก่อนผมเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอีกด้วยซ้ำ แต่คุ้นๆว่า ครั้งแรกที่ผมมารับประทานที่นี่ น่าจะสักประมาณ ปี 3 ปี 4

แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือว่า “คอหมูย่าง” ร้านนี้คือดีมาก ดีสุดๆ เดี๋ยวเรามาตามไปดูทีละอย่างกันเลยครับ

ข้อมูลร้านเบื้องต้น

ร้านนี้เปิดเวลา 17.00 น. – 23.00 น. ให้บริการ จันทร์ – เสาร์ ถ้าใครกลัวไม่มีโต๊ะสามารถโทรจองโต๊ะได้ ที่เบอร์ 085-0532184 ต่อ (พี่หญิง)

สถานที่ตั้ง

ตั้งอยู่ที่ บางแสน จังหวัดชลบุรี แถวๆ บริเวณ มหาวิทยาลัยบูรพา พูด ง่ายๆ ตั้งอยู่หลัง ซอย Pub Burdock ตามที่บอกไว้ด้านบน และเพื่อความละเอียดมากขึ้น ลองดูผ่าน Google Maps ได้ครับ

ถ้าจะให้ง่ายกว่านั้น ค้นหาใน Google Maps ด้วย Keyword นี้ เป๊ะๆ เจอร้านแน่นอนและได้ปักหมุดเอาไว้แบบถูกต้องด้วย “แจ่วฮ้อนอุบล ซ.หลังเบอร์ด๊อก”

บรรยากาศภายในร้าน

ภายในร้านจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความ โคตรชิล ปูเสื่อนั่งกิน ได้ฟิวริ่งแบบ ชิวๆ เวลามาร้านส้มตำอะไรแบบนี้ บางทีการนั่งบนพื้นเสื่อ ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ

ใครที่ไม่ชอบนั่งพื้น ทางร้านก็มีโต๊ะสูง มีเก้าอี้ให้นั่งเป็นอีกทางเลือกด้วยเหมือนกัน

ส่วนคนจะค่อนข้างเยอะหน่อย ถึงกับเยอะเลยหละ ถ้ามาในเวลาประมาณ 1 ทุ่ม เวลานี้นี่กำลังหิวกันเลย บางทีอาจจะต้องรอคิวเลยทีเดียว

ที่จอดรถ

สำหรับรถยนต์นั้น สามารถจอดได้หน้าร้าน มันจะเป็นลักษณะซอย คือให้จอดชิดถนนขอบใดขอบหนึ่ง คืออาจจะจอดรถยนต์ได้ไม่เยอะมาก

แต่รถที่มาจอดส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นรถมอไซค์ซะมากกว่า เพราะคนที่มาทานอาหารร้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนิสิตนักศึกษา โดยที่จอดรถมอไซค์นี่เพียบและค่อนข้างกว้าง

รสชาติอาหาร

และเราก็มาถึงจุดนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่า ผมมากินหลายครั้งมากกับร้านนี้ เพราะติดใจอาหารหลายๆอย่าง เราเริ่มจาก “คอหมูย่าง” ที่ผมคิดว่าอร่อยที่สุดแล้วจากการ ที่กินมาหลายร้านมากในบางแสน

คือรสชาติของมันนั้น กลมกล่อม และ มีความหวาน อร่อยในตัวของมันเอง คือ เค้าจะมีน้ำจิ้มมาให้จิ้มด้วยแต่ มุมผม แทบไม่จำเป็นเลย นุ่มก็นุ่มสุด คือมันอร่อยในตัวมันเองอยู่แล้ว เมนูอื่นไม่ต้องสั่งยังได้

มากินเมนูนี้ เมนูเดียวก็คุ้มละ 555 สำหรับผมนะ แค่กินกับข้าวเหนียว นะ โอ้ยย สุดมาก ตอนเขียนบล็อกนี้ ก็โคตรจะหิว

ต่อๆ ด้วยอีกทีเด็ด ของร้านนี้เลย ที่จะเห็นทุกโต๊ะแทบจะสั่งมาเหมือนกันหมด ก็คือ “จิ้มจุ่มแจ่วฮ้อนหมู” นุ่มๆ นิ่มๆ กินกับน้ำจิ้ม และ สดน้ำร้อนๆ นี่ไม่ต้องพูดถึง

ความบังเอิญ ของผมนั้นคือ ไปเห็นเค้าตำส้มตำที่มีหอยแครงด้วย ก็เลยแอบคิดว่า เห้ยมันจะมีเมนู “หอยแครงลวก” หรือเปล่าหว่า ก็เลยลองสั่งดู เพราะรู้สึกว่าอยากลองกินดู เพราะตลอดระยะเวลาที่เรียนมา 4 ปี ก็ยังไม่เคยสั่ง

ปรากฎว่าพนักงานบอกว่ามีซะอย่างนั้น รสชาติของมันกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดก็พอให้ผมหายอยากไปบ้าง พูดง่ายๆ ถือว่ากำลังดี แต่อาจจะยังไม่สุดสำหรับผมในเมนูนี้

ก่อนที่จะเริ่มกินอย่างจริงจัง พนักงานก็ได้กระซิบบอกมาว่า ทางร้านเราวันนี้ เรามีเมนูแนะนำ ซึ่งก็คือเมนู “ขนมจีบหมูนุ่ม” ที่เราทำเองตั้งแต่เริ่มกระบวนการ

ตั้งแต่แป้งเอง ไส้หมู นึ่งเอง ทำน้ำจิ้มของมันเอง ซึ่งเพื่อนๆ อาจจะมองว่าเห้ย จริงๆมันก็ไม่มีอะไรนี่หว่า แต่อย่าได้ลองนะ อาจจะหยุดกินไม่ได้เลยทีเดียว แปบเดียวก็หมด แบบแทบไม่ทันรู้สึกตัว

และทุกครั้งที่ผมมาร้านนี้ทีไร ก็ต้องสั่งมันมาเป็นองค์ประกอบทุกที กับ “เมนูส้มตำปูปลาร้า” คือผมไม่แน่ใจเท่าไหร่กับความเที่ยงตรงของรสชาติ เพราะบางทีมันก็ เหมือนเดิม บางทีมันก็ไม่เหมือน เอาเป็นว่า ต้องไปลองเอง สำหรับเมนูส้มตำปูลาร้า

เมนูสุดท้ายที่ทางร้านได้แนะนำผมก่อนที่ จะได้กินกันอย่างเต็มภาคภูมิคือ เมนู “หมูย่างน้ำจิ้มปลาร้า” คือทางร้านบอกว่า น้ำจิ้มปลาร้า นี้ถูกทำขึ้นอย่างพิเศษ ด้วยสูตรของทางร้านเอง ดังนั้นรสชาติจะแตกต่างและไม่เหมือนใคร

สุดท้ายก็ มาถึงเวลาสักที สำหรับการ บรรเลงทุกๆ อย่างเข้าด้วยกัน และ ลิ้มรสของความอร่อย ฮึบ กินๆๆๆ

เมนูอาหารอื่นๆ

ยังมีเมนูอีกมากมาย นอกเหนือจากการแนะนำของผมวันนี้ เพื่อรอเพื่อนๆ ทุกคนมาพิสูจน์ด้วยลิ้นของเพื่อนๆ เอง คริคริ

บล็อกนี้เป็นคำแนะนำ และ ความรู้สึกส่วนตัวของผมนะครับ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากรู้ว่ามันอร่อยตามที่ผมว่าไหม ก็ต้องไปลุยด้วยตัวเองงเลยครับบปมมม